นิสัยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเป็นอย่างไร
การศึกษาไทยก็เป็นแบบนั้น
ถ้าฉันได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ฉันจะหักเงินเดือนตัวเองครึ่งหนึ่งมาพัฒนาการศึกษาไทย
ทฤษฎีง่ายๆที่เราทุกคนต่างเข้าใจได้และก็เข้าใจได้ดีมากๆเสียด้วย "เมื่อเราถนัดอะไรชอบอะไรเราก็มักจะเป็นหรือทำสิ่งนั้นได้ดีกว่าใครๆ" แต่น่าเเปลกที่การเมืองไทยไม่เคยทำสิ่งนี้เลย อยากจะเสนอชื่อใครเป็นกระทรวงอะไรก็ได้ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ เอาหมอ เอาทหาร เอาใครก็ไม่รู้ไม่เคยเป็นครูเลยมาสั่งมาคิดแทนครูได้ยังไง 100ปีประเทศก็ไม่พัฒนาหรอกครับ
8ปีที่แล้วครูเป็นครูอัตราจ้างอยู่ มีผอ.โรงเรียนท่านหนึ่งเคยบอกครูว่า "เราได้เเค่คิด เราไม่สามารถทำอะไรได้หรอกเพราะเราไม่มีอำนาจ" ครูอึ้งไปชั่วขณะ ขนาดผอ.ยังไม่สามารถทำอะไรได้เเล้วครูอัตราจ้างอย่างเราคงจะต้องเลิกคิดได้แล้วมั้ง เชื่อไหมครับครูไม่เคยเลิกคิดจนถึงวันนี้ครูก็ยังคิดว่า ครูผู้น้อยอย่างเราต้องมีทางทำไรๆให้สะเทือนถึงวงการการเมืองได้สิ เราจะปล่อยให้ใครก็ได้มาสั่งเราอยู่อย่างนี้เหรอครับ
ครูเป็นแค่ครูผู้น้อยจะเอาเสียงจากไหนไปตะโกนบอกเขา เมื่อเขาเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้เรา บางครั้งเราต้องคิดถึงปากท้องของเราไว้ก่อน จริงเหรอ ใช่สิถ้าเรามีอาชีพเป็นครู ก็ตั้งใจสอนนักเรียนไปวันๆทำตามหน้าที่ของครูให้ดีที่สุดก็พอ จะไปคิดอะไรมากมาย
แต่ครูเป็นมากกว่าอาชีพครู ครูมืออาชีพไหม? ไม่รู้ใครจะเรียกว่ายังไงก็แล้วแต่ การที่ครูมาเรียกร้องและบอกให้สังคมรับรู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาตินั้นสมควรจะทำหรือไม่ แล้วครูผู้น้อยอย่างเราจะบอกสังคมให้รับรู้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง
ครูก็คิดไม่ออกเหมือนกันนอกจากจะบอกว่า " ถ้าครูได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการครูจะหักเงินเดือนตัวเองครึ่งหนึ่งมาพัฒนาการศึกษาไทย "
ครูปัญญา กายะชาติ ครูศิลปะ
13 มิถุนายน 2562
เฟสบุค เฟสบุค
เพจเมื่อฉันเป็นครู เมื่อฉันเป็นครู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น